พิษ!พายุไต้ฝุ่น'เทมบิง'ทำอุตรดิตถ์จม3ตำบล

พิษ!พายุไต้ฝุ่น'เทมบิง'ทำอุตรดิตถ์จม3ตำบล พายุไต้ฝุ่น "เทมบิง" ทำพิษ ส่งผลน้ำท่วม อ.ลับแล 3 ตำบล กระทบ 500 ครอบครัว ปภ.เร่งช่วยเหลือ จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น "เทมบิง" ทำพิษ ส่งผลให้น้ำท่วม อ.ลับแล 3 ตำบล น้ำไหลบ่าท่วมนาข้าวราษฎรกว่า 2,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วกว่า 500 ครอบครัว ซึ่งล่าสุด นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ประสานไปยัง นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขอเครื่องจักรกลหนัก เข้าทำการขุดลอกคลองแม่พร่อง พร้อมตักผักตบและเศษสวะที่ลอยมาตามลำน้ำออก เนื่องจาก เศษสวะดังกล่าวได้ลอยไปติดตามคอสะพานข้ามลำคลองในหมู่บ้าน และทำให้สะพานพัง พร้อมทั้งได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งยั้ง ให้นำหลักไม้ยูคาฯ มาตอกริมลำน้ำ ที่อยู่ติดริมถนนบางจุดที่น้ำได้กัดเซาะถนนพัง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นาข้าวของ ต.ฝายหลวง และ ต.ไชยจุมพล ของ อ.ลับแล นั้น ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดระดับลงแล้ว เนื่องจาก ในคืนที่ผ่านมา ไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีก และในขณะนี้ ยังมีน้ำท่วมนาข้าวและเส้นทางสัญจร บางจุดอยู่ในเขต ตำบลทุ่งยั้งและ ไผ่ล้อม เท่านั้น จากสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น น้ำท่วมอ.ลับแลอุตรดิตถ์ นาข้าวจม-ร.ร.วัดโพธิ์ทองปิด1วัน วันที่ 27 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จากอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้น้ำจากภูเขาไหลลงสู่คลองแม่พร่อง และล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 500 หลังคา และพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 1 หมื่นไร่  นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า สรุปความเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วม อำเภอลับแล 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 500 หลังคา คือที่ ต.ฝายหลวง ต.ชัยจุมพล ต.ทุ่งยั้ง และ ต.ไผ่ล้อม สถานการณ์ล่าสุดน้ำยังไหลเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกร ที่ ต.ไผ่ล้อม และ ต.ทุ่งยั้ง กว่า 1 หมื่นไร่ ทั้งนี้ระดับน้ำยังคงท่วมขังหมู่ 3 หมู่ 6 ต.ไผ่ล้อม กว่า 200 หลังคา เรือน "นอกจากจะระดมกระสอบทราย 5,000 ใบทำแนวกั้นน้ำแล้ว ได้ประสาน อบจ.อุตรดิตถ์นำเครื่องจักรเข้าขุดลอกขยายคลอง เปิดทางน้ำให้ไหลลงสู่บึงมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากอ.เมือง อ.ลับแล หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ"นายสุรชัย กล่าว นายสุรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้หลังวันที่ 27 สิงหาคม พื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ได้รับอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ คาดมีฝนตกกระจายร้อยละ 70 ของพื้นที่จึงประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะบริเวณหุบเขา 7 อำเภอ 105 หมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม สั่งการให้ท้องถิ่น ผู้นำ และมิสเตอร์เตือนภัยมีความพร้อม 24 ชั่วโมง ตรวจสอบระดับน้ำฝนจากเครื่องวัดปริมาณน้ำฝน สีของน้ำและระดับน้ำที่ไหลจากภูเขาสูง  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะลงพื้นที่หมู่ 6 ต.ไผ่ล้อม พบว่าน้ำยังคงไหลเชียวทะลักเข้าท่วมที่นาของเกษตรกรเป็นวงกว้างและสุดลูกหูลูกตา นางเรณู ประจันทอง อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม ต้องเกาะต้นไม้และใช้ไม้ค่ำ ต้านกระแสน้ำที่ไหลเชียวออกจากบ้านเพื่อมาหาซื้อของใช้ที่จำเป็น ระบุว่าน้ำยังคงท่วมและไหลเชี่ยว ทะลักเข้าท่วมบ้านและบ่อปลานิล ปลาสวาย ปลาดุก กว่า 2 หมื่นตัวไหลไปกระแสน้ำ  นางประเทือง คำเพ็ง กล่าวว่า นาข้าว 35 ไร่ต้นข้าวอายุกว่า 1 เดือนจมอยู่ใต้น้ำ หลังกู้ยืมเงิน ธกส.มาแล้ว 1.5 แสนบาท ทั้งนี้น้ำท่วมปีนี้ นอกจากระดับน้ำจะสูงกว่าปีที่ผ่านมากว่า 30 เซ็นติเมตรแล้ว พบว่าสีของน้ำเป็นสีแดงข้น เต็มไปด้วยโคลน หาก 3 วันน้ำไม่ลดต้นข้าวคงเน่าตาย เท่ากับหมดตัว ด้านนายสุรพงษ์ หอมสุนทร ผอ.โรงเรียนวัดโพธ์ทอง ต.ไผ่ล้อม กล่าวว่า น้ำได้ทะลักท่วมโรงเรียน ทั้งสนามกีฬา อาคารเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก นับเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนถูกน้ำท่วม แม้ ต.ไผ่ล้อมจะถูกน้ำท่วมซ้ำซากปีละ 3-4 ครั้ง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยน้ำโรงเรียน ทั้งนี้น่าจะมาจากคูคลองตื่นเขิน ไม่มีการขุดลอก ประกอบกับบ้านของนักเรียนถูกน้ำท่วมเช่นกัน จึงได้มีการสั่งปิดเรียน 1 วัน เพื่อสำรวจความเสียหายแจ้งไปยังต้นสังกัดและหากน้ำลดต้องทำความสะอาด เพื่อดำเนินการเรียนการสอนต่อไป